วันจันทร์ที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2555


เมี่ยงคำ

วัตถุดิบและสัดส่วน:เมี่ยงคำ
1.ใบชะพลู หรือใบทองหลาง
2.มะพร้าวหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ คั่ว
3.หอมแดงหั่นเป็นชิ้นลูกเต๋า
4.ขิงหั่นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า
5.มะนาวหั่นทั้งเปลือกเป็นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า
6.พริกขี้หนูซอย
7.ถั่วลิสงคั่ว
8.กุ้งแห้ง (เลือกที่เป็นชนิดจืด) 

น้ำราดเมี่ยงคำ
1.น้ำตาลปี๊บ 1 ถ้วย
2.กะปิ (เผาเพื่อเพิ่มความหอม) 
3.น้ำปลาอย่างดี 1 ถ้วย
4.ข่าหั่นละอียด 1 ช้อนโต๊ะ
6.ตะไคร้หั่นฝอย 1 ช้อนโต๊ะ
7.กุ้งแห้งโขลกละเอียด ¼ ถ้วย
ขั้นตอนการปรุง:
1.คั่วมะพร้าว ในกระทะโดยใช้ไฟอ่อน จนได้มะพร้าวคั่วที่กรอบหอม
2.ทำน้ำราดเมี่ยงคำ โดยเริ่มจาก ตำโขลก ตะไคร้ ข่า หอมแดงเข้า และกะปิเข้าด้วยกันให้ละเอียด เคี่ยวจนน้ำราดเมี่ยงคำเริ่มเหนียว ยกลงแล้วใส่กุ้งแห้งคั่ว
3.เคี่ยวน้ำตาลปี๊บด้วยไฟปานกลาง และเติมน้ำปลาลงไป
4.ใส่เครื่องที่โขลกไว้ลงไป คนให้เข้ากัน
5.อาจเสริ์ฟเป็นคำๆ โดย ห่อเครื่องต่างๆ ด้วยใบชะพลู หรือใบทองหลาง แล้วเสียบไม้จิ้มฟันเป็นคำไว้ แล้วตักน้ำราดเมี่ยงคำใส่ถ้วยแยกไว้ต่างหาก

วันอังคารที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2555

ป่า 3 อย่าง ประโยชน์ 4 อย่าง


ป่า 3 อย่าง ประโยชน์ 4 อย่าง

ป่า อย่าง ประโยชน์ อย่าง

          ความรู้ที่ได้เมื่อครั้งตามเสด็จ คือพระเจ้าอยู่หัวให้ความสำคัญกับการปลูกป่า  เพราะป่าให้อาหาร ให้น้ำ และใหอากาศ  เมื่อเขาตัดสินใจลาออกจากราชการ  มาเริ่มต้นกับผืนดินแห้งแล้งจำนวน 40 ไร่ ตำบลมาบเอื้อง อำเภอบ้านบึง จังหวัดชลบุรี เขาขุดบ่อน้ำลึก 15 เมตร กินพื้นที่ ไร่ เมื่อได้น้ำแล้วเขาก็เริ่มปลูกป่าทันที   ตามแนวพระราชดำรัสเกี่ยวกับป่า 3  อย่าง ประโยชน์ อย่าง ที่ได้พระราชทาน ณ โรงแรมริมคำ จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อวันที่ มกราคม 2523

        “...
การปลูกป่าถ้าจะให้ราษฎรมีประโยชน์ให้เขาอยู่ได้  ให้ใช้วิธีปลูกไม้สามอย่าง  แต่มีประโยชน์สี่อย่าง คือ ไม้ใช้สอย  ไม้กิน  ไม้เศรษฐกิจ  โดยปลูกรองรับการชลประทาน ปลูกรับซับน้ำและปลูกอุดช่วงไหล่ตามร่องห้วย  โดยรับน้ำฝนอย่างเดียวประโยชน์ที่สี่คือ ได้ระบบอนุรักษ์ดินและน้ำ...

         
วิวัฒน์  ศัลยกำธร  อธิบายหลักการปลูกป่า อย่าง ประโยชน์ อย่าง ว่าเป็นแนวคิดขิงการผสมผสานการอนุรักษ์ ดิน น้ำ และการฟื้นฟูทรัพยากรป่าไม้  ควบคู่กับความต้องการด้านเศรษฐกิจ  ด้วยการจำแนกป่า อย่าง ดังนี้
           1. 
ป่าไม้ใช้สอย  คือ ไม้โตเร็ว สำหรับใช้ในครัวเรือน เช่น สะเดา ไม้ไผ่
           2. 
ป่าไม้กินได้  คือ ไม้ผล เช่น มะม่วง และผักกินใบต่างๆ
           3. 
ป่าไม้เศรษฐกิจ  คือ  ไม้ที่ปลูกไว้ขาย  หรือไม้เศรษฐกิจ เช่น ไม้สัก

ส่วนประโยชน์ อย่าง จำแนกประโยชน์แต่ละอย่างออกเป็น
           1. 
ป่าไม้ใช้สอย  นำมาสร้างบ้าน  ทำเล้าเป็ด  เล้าไก่  ด้ามจอบเสียม  ทำหัตถกรรม  หรือกระทั่งใช้เป็นเชื้อเพลิง (ฟืน) ในการหุงต้ม
           2. 
ป่าไม้กินได้  นำมาเป็นอาหาร  ทั้งพืชกินใบ  กินผล  กินหัว  และเป็นยาสมุนไพร
           3. 
ป่าไม้เศรษฐกิจ  เป็นแหล่งรายได้ของครัวเรือน  เป็นพืชที่สามารถนำมาจำหน่ายได้  ซึ่งควรปลูกพืชหลากหลายชนิดเพื่อลดความเสี่ยงเรื่องราคาตกต่ำและไม่แน่นอน
           4. 
ประโยชน์ในการช่วยอนุรักษ์ดินและน้ำ  การปลูกพืชที่หลากหลายอย่างเป็นระบบ จะช่วยสร้างสมดุลของระบบนิเวศในสวน  ช่วยปกป้องผิวดินให้ชุ่มชื้น ดูดซับน้ำฝน และค่อยๆ ปลดปล่อยความชื้อสู่สวนเกษตรกรรม

อ้างอิงโดยhttp://www.vcharkarn.com/varticle/39438

คุณธรรมและจริยธรรมในการใช้งานอินเตอร์เน็ต


คุณธรรมและจริยธรรมในการใช้งานอินเตอร์เน็ต

คุณธรรมและจริยธรรมในการใช้งานอินเตอร์เน็ต

        ในสังคมอินเทอร์เน็ตนั้น มีทั้งคนดีและคนไม่ดีเช่นเดียวกับสังคมทั่วไป ผุ้ใช้ที่ไม่ระมัดระวังจึงอาจถูกล่อลวงไปในทางที่ผิดหรือก่อให้เกิดอันตราย ได้ ฉะนั้น วิธีหนึ่งที่จะป้องกันเยาวชนไทยจากปัญหาเหล่านี้ก็คือ การให้เยาวชนรู้จักกับศิลปป้องกันตัวในอินเทอร์เน็ต
        1. ไม่บอกข้อมูลส่วนตัว เช่น ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ ชื่อ โรงเรียนของตนให้แก่บุคคลอื่นที่รู้จักกันทางอินเทอร์เน็ต โดยไม่ได้รับอนุญาตจากผู้ปกครองก่อน
        2. หากพบข้อความหรือรูปภาพใดๆ บนอินเทอร์เน็ตที่มีลักษณะหยาบคายหรือไม่เหมาะสม ควรแจ้งให้ผู้ปกครองทราบทันที
        3. ไม่ควรไปพบบุคคลใดก็ตามที่รู้จักกันทางอินเทอร์เน็ตโดยไม่ได้รับอนุญาตจาก ผู้ปกครองก่อน และหากผู้ปกครองอนุญาต ก็ควรไปพร้อมกับผู้ปกครอง โดยควรไปพบกันในที่สาธารณะ
        4. ไม่ส่งรูปหรือสิ่งใดๆ ให้บุคคลที่รู้จักทางอินเทอร์เน็ต โดยมิได้รับอนุญาตจากผู้ปกครองก่อน
        5. ไม่ตอบคำถามหรือต่อความกับผู้ที่สื่อข้อความหยาบคาย และต้องแจ้งให้ผู้ปกครองทราบทันที
        6. ควรเคารพต่อข้อต่อลงในการใช้อินเทอร์เน็ตที่ให้ไว้กับผู้ปกครอง เช่น กำหนดระยะเวลาในการใช้อินเทอร์เน็ต เว็บไซต์ที่ผู้ปกครองอนุญาตให้เข้าได้



                                            อ้างอิงโดย http://www.bkk1.in.th/Topic.aspx?TopicID=19470

วันอังคารที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2555

ประวัติส่วนตัว


ประวัติส่วนตัว

ชื่อ เด็กหญิงภารดี  นิลเกษ
ชื่อเล่น กระต่าย
ราศี เมษ
กรุ๊ปเลือด กรุ๊ปo
อายุ 13 ปี
สมาชิกครอบครัว จำนวน 5คน พ่อ แม่ พี่ ยาย ตัวเอง
การศึกษา -ปัจจุบัน กำลังศึกษาชั้น ม.2 โรงเรียนตากพิทยาคม
งานอดิเรก ดูการ์ตูน ฟังเพลง ดูหนัง ทบทวนบทเรียน
สีที่ชอบ สีฟ้า สีครีม สีน้ำตาล
อาชีพที่สนใจ แพทย์ เภสัชกร พยาบาลทหาร
ที่อยู่ อ.น้ำรึม หมู่ 8 จังหวัดตาก 63000
เครื่องดืมที่ชอบ มอคค่าผสมโกโก้ น้ำอัดลม
หนังสือที่ชอบ หนังสือการ์ตูน(โคนัน,ตึ่งหนืด)

ข้อมูลสารสนเทศ

ข้อมูลและสารสนเทศ


ข้อมูล เป็นข้อเท็จจริงของเหตุการณ์ หรือสิ่งของที่น่าสนใจ ข้อมูลจะนำไปใช้ประโยชน์ได้ก็ต่อเมื่อผ่านการประมวลผลให้เป็นสารสนเทศก่อน สารสนเทศนี้เองคือสิ่งที่เราจะนำไปใช้ประกอบการตัดสินใจ ข้อมูลละสารสนเทศจึงเป็นสิ่งมีค่า ต้องเก็บรักษาไว้อย่างเป็นระบบ และทำให้ทันสมัยเสมอ

ชนิดของเครือข่ายคอมพิวเตอร์


ชนิดของเครือข่ายคอมพิวเตอร์

เครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบันมีหลายประเภท จำแนกได้ตามขอบเขตของการเชื่อมต่อ มีดังต่อไปนี้
1.เครือข่ายบริเวณเฉพาะที่ (Local Area Network) หรือ แลน (LAN)
2.เครือข่ายบริเวณนครหลวง (Metropolitan Area Network) หรือแมน (MAN)
3.เครือข่ายบริเวณกว้าง (Wide Area Network) หรือแวน (WAN)
4.เครือข่ายอินเทอร์เน็ต (Internet)
เครือข่ายบริเวณเฉพาะที่
                เครือข่ายบริเวณเฉพาะที่ (Local Area Network : LAN) เป็นเครือข่ายระยะใกล้ ใช้ภายในสำนักงานขององค์กรที่อยู่ในอาคาเดียวกัน ส่วนประกอบสำคัญของระบบเครือข่ายบริเวณเฉพาะที่มีดังนี้
1.เครื่องบริการ (server)
2.เครื่องสถานีงาน (workstation)
3.การ์ดต่อเชื่อมเครือข่ายเฉพาะที่ (LAN card)
4.ซอฟต์แวร์ควบคุมระบบเครือข่าย (Network system software)
5.เครื่องกระจายสายระบบเครือข่ายบริเวณเฉพาะที่หรือฮับ (hub)
6.สายต่อเชื่อมระบบเครือข่ายบริเวณเฉพาะที่ (LAN cable)
เครือข่ายบริเวณนครหลวง
                เครือข่ายบริเวณนครหลวง หรือแมน (MAN) เป็นเครือข่าย ให้บริการสำหรับเมืองใหญ่ๆที่พัฒนามาจากระบบโทรทัศน์ทางสาย หรือเคเบิลทีวีในสมัยก่อน
เครือบริเวณกว้าง
                เครือข่ายบริเวณกว้างหรือแวน(WAN)เป็นเครือข่ายที่พัฒนามาจากเครือข่ายโทรศัพท์ทางไกลซึ่งเชื่อมโยงผ่าน เมือง จังหวัด ประเทศ ทวีป โยงใยทั่วโลก แบ่งเป็น2เครือข่าย เครือข่ายย่อย (subnet) เครือข่ายหลัก (backbone)


เครือข่ายอินเทอร์เน็ต
                เครือข่ายอินเทอร์เน็ต (internet) ได้รับการพัฒนามาจากแวนเพื่อการวิจัยของกระทรวงกลาโหมสหรัฐที่เรียกว่า อาร์พาเน็ต (ARPANET) ซึ่งเริ่มต้นสร้างขึ้นในปี 1969 โดยมีมหาวิทยาลัยเข้าร่วมพัฒนา 3 มหาวิทยาลัย และศูนย์วิจัยอีก 1 แห่ง ต่อมาเครือข่ายนี้ได้พัฒนาขึ้นเรื่อยๆ